วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหา <25/07/59>
แม่ ” คำคำนี้เป็นคำสูง
เป็นมงคลแห่งคำอันควรเทิดไว้เหนือบรรดาคำทั้งปวงในภาษาศาสตร์ เป็นคำที่น่าฟัง
ไพเราะเสนาะหู มีความหมายในทางชื่นอกชื่นใจ เราจึงเรียกคนที่กำเนิดเรามาว่า “แม่” เพราะเรียกคำอื่นคงฟังไม่ชื่นใจมากเท่านี้ และคำว่า “แม่” นี่เองเป็นคำที่เด็กมักจะพูดก่อนคำใดๆ เมื่อเริ่มพูดได้ เด็กต้องพูดคำว่า แม่ก่อน แม้ว่าจะพูดไม่ชัด ออกเสียงเป็น มะ เป็น แมะ อะไรไปก็ได้
แต่จุดหมายของเขาก็คือเรียกคนที่เขารู้จักมาก่อนใครๆ ผู้ที่ใกล้ชิดมากกว่าใคร
ผู้เฝ้าดูแลอุ้มชูทะนุถนอมชีวิตน้อยๆในครรภ์มากว่า ๙ เดือน ดอกเอ๋ยดอกมะลิ ถึงยามผลิกลีบพราวสกาวต้น สดสะอาดปราศสีราคีระคน เหมือนกมลใสสดหมดระคาย กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สร่าง เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย ขอเชิญทายหาที่ไหนจากใครเอย
วันแม่แห่งชาติ เป็นวันสำคัญที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของแม่ บุคคลที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตมนุษย์ทุกคน เพราะแม่นั้นเปรียบดังเทวดา ผู้ให้ชีวิต ผู้คอยดูแลคุ้มครองรักษา มอบความรัก ความอบอุ่น อุ้มชูบุตรไปสู่ความเจริญทั้งกาย ทั้งใจ เป็นผู้ร่วมทุกข์ในยามที่ลูกตกต่ำและเหนื่อยยาก เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรให้ที่ปกป้องลูกให้ร่มเย็นเป็นสุข ดั่งพระในบ้านที่บุตรควรกราบไหว้บูชา สักการะทุกวันเวลา ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติได้ถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. ๑๙๑๔ (พ.ศ.๒๔๕๗) จากความพยายามริเริ่มของ แอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูจากรัฐฟิลาเดเฟีย จนในที่สุดประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา และกำหนดดอกไม้สำหรับวันแม่แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา คือ ดอกคาร์เนชั่น สำหรับในประเทศไทยนั้นมีการจัดงานวันแม่ขึ้นมาเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๖ โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้จัดงาน แต่เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง งานวันแม่ในปีต่อมาจึงถูกงดไป หลังจากผ่านสงครามไปแล้ว หลายหน่วยงานได้พยายามรื้อฟื้นให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เเละได้มีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง แต่กำหนดวันแม่ที่ประชาชนนิยม คือวันที่ ๑๕ เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยกิจกรรมก็มี การจัดพิธีกรรม ทางพระพุทธศาสนา การประกวดคำขวัญวันแม่ การประกวดแม่ของชาติ เพื่อให้เกียรติและตระหนักในความสำคัญของแม่ และเพื่อเพิ่มความสำคัญของวันแม่ให้ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยเหตุนี้วันแม่จึงเป็นงานประจำของชาติ ตามประกาศของรัฐบาล ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในเวลานั้นทั่วไปเรียกกันว่า วันแม่ของชาติ งานวันแม่ในวันที่ ๑๕ เมษายน ยังดำเนินต่อมาอีกหลายปี แต่ก็ต้องมาหยุดชะงักลงด้วยเหตุที่ว่าสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ผู้จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย เห็นว่าควรมีการจัดงานวันแม่ต่อไป จึงได้รื้อฟื้นงานวันแม่ขึ้นมาอีก และได้กำหนดจัดงานวันแม่ คือวันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ แต่จัดได้ปีเดียวก็เลิกไป จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ทางราชการจึงได้กำหนดวันแม่ใหม่ โดยให้ถือวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ ๑๒ สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ โดย |